การเลือกตั้งทั่วไปของสหราชอาณาจักรปี 2017 เผยอัตลักษณ์ทางการเมืองที่เปลี่ยนแปลงไปและความไม่แน่นอนของอนาคตยุโรป

ในวันที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2560 ประชาชนชาวสหราชอาณาจักรได้เดินเข้าคูหาเลือกตั้งทั่วไปอย่างไม่คาดฝัน การเลือกตั้งครั้งนี้เกิดขึ้นก่อนกำหนดอันเนื่องมาจากนายเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีจากพรรคอนุรักษ์นิยมต้องการเสริมสร้างอำนาจของตนและผ่านร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการถอนตัวจากสหภาพยุโรป (Brexit) อย่างราบรื่น
อย่างไรก็ตาม ผลการเลือกตั้งกลับไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง พรรคอนุรักษ์นิยมซึ่งมีนายเทเรซา เมย์เป็นหัวหน้าพรรคสามารถคว้าได้เพียง 318 ที่นั่ง จากทั้งหมด 650 ที่นั่ง ในสภาผู้แทนราชนิยม ซึ่งน้อยกว่าที่เคยได้รับในอดีต นอกจากนี้ พรรคแรงงานของนายเจเรมี คอร์บินยังสามารถเพิ่มจำนวนที่นั่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
เหตุการณ์ครั้งนี้สะท้อนถึงความแบ่งแยกระหว่างประชาชนชาวอังกฤษเกี่ยวกับ Brexit และการเลือกตั้งปี 2017 กลายเป็นจุดหักเหสำคัญของการเมืองสหราชอาณาจักรในศตวรรษที่ 21
สาเหตุและปัจจัยที่นำไปสู่การเลือกตั้งทั่วไปปี 2017
การตัดสินใจของนายเทเรซา เมย์ในการเรียกการเลือกตั้งทั่วไปก่อนกำหนดถูกชี้นำโดยหลายปัจจัย:
- ความต้องการเสริมสร้างอำนาจ: นายเทเรซา เมย์เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหลังจากนายเดวิด แคเมรอนลาออกในปี 2559 เนื่องจากความไม่ลงรอยกันภายในพรรคอนุรักษ์นิยมเกี่ยวกับการถอนตัวจากสหภาพยุโรป (Brexit)
นายเทเรซา เมย์หวังว่าการเลือกตั้งทั่วไปจะช่วยให้เธอได้รับเสียงสนับสนุนจากประชาชนอย่างชัดเจน และทำให้สามารถนำร่างกฎหมาย Brexit ผ่านสภาผู้แทนราชนิยมได้โดยไม่ขัดข้อง
- ความต้องการความชอบธรรม: นายเทเรซา เมย์ไม่ได้รับเลือกตั้งโดยตรงเป็นผู้นำพรรคอนุรักษ์นิยมและนายกรัฐมนตรี
การเรียกเลือกตั้งทั่วไปถูกมองว่าเป็นวิธีเพื่อพิสูจน์ความชอบธรรมของเธอต่อหน้าประชาชน
- ความคาดหวังในการได้รับชัยชนะเด็ดขาด: นายเทเรซา เมย์และพรรคอนุรักษ์นิยมมีความมั่นใจว่าจะสามารถคว้าเสียงข้างมากอย่างถล่มทลายในสภาผู้แทนราชนิยม
พวกเขาเชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่สนับสนุนการ Brexit และต้องการให้พรรคอนุรักษ์นิยมนำประเทศไปข้างหน้า
ผลกระทบของการเลือกตั้งทั่วไปปี 2017
การเลือกตั้งทั่วไปปี 2017 นำไปสู่ความปั่นป่วนทางการเมืองอย่างรุนแรงในสหราชอาณาจักร:
- รัฐบาลเสียงข้างน้อย: พรรคอนุรักษ์นิยมไม่สามารถคว้าเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราชนิยม
นายเทเรซา เมย์จึงต้องพึ่งพาการสนับสนุนจากพรรคประชาธิปไตยไอร์แลนด์เหนือ (DUP) เพื่อก่อตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย
- ความไม่แน่นอนของ Brexit: การเลือกตั้งทั่วไปปี 2017 ทำให้กระบวนการ Brexit สิ้นสุดลง
ความไม่แน่นอนทางการเมืองและการขาดฉันทิมตรองในสภาผู้แทนราชนิยมทำให้เกิดความกังวลว่าสหราชอาณาจักรจะสามารถถอนตัวจากสหภาพยุโรปได้อย่างราบรื่นหรือไม่
- การเพิ่มขึ้นของพรรคแรงงาน:
พรรคแรงงานภายใต้การนำของนายเจเรมี คอร์บิน ได้รับเสียงสนับสนุนอย่างแข็งแกร่งในระหว่างการเลือกตั้งครั้งนี้ และสามารถเพิ่มจำนวนที่นั่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ความสำเร็จของพรรคแรงงานแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงอัตลักษณ์ทางการเมืองในสหราชอาณาจักร
- ความนิยมของพรรคใหม่:
การเลือกตั้งทั่วไปปี 2017 ยังเห็นการเพิ่มขึ้นของพรรคการเมืองใหม่ เช่น พรรค Lib Dems ซึ่งเป็นพรรคที่สนับสนุนการคงอยู่ของสหภาพยุโรป
สรุปและข้อสังเกต
การเลือกตั้งทั่วไปปี 2017 เป็นเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์สหราชอาณาจักร และมีผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อการเมืองและสังคม
การเลือกตั้งครั้งนี้เปิดเผยความแบ่งแยกระหว่างประชาชนชาวอังกฤษเกี่ยวกับ Brexit
นอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นถึงความไม่แน่นอนของอนาคตยุโรป และการเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้นในอัตลักษณ์ทางการเมือง
ผลของการเลือกตั้งทั่วไปปี 2017 ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง และจะส่งผลต่อเส้นทางการเมืองและสังคมของสหราชอาณาจักรในอนาคต